น้ำกลั่น
น้ำดื่มที่ดีที่สุดสำหรับคนเราคือน้ำบริสุทธิ์ซึ่งปราศจากสิ่งปนเปื้อนทุกชนิด ในขณะที่น้ำประปานั้นจะพบ คลอรีน เรดอน สารหนู และสารเคมีบางอย่าง ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกาย สำหรับน้ำกรอง น้ำแร่ น้ำใต้ดินนั้นก็มีสารเคมีบางอย่างที่ร่างกายไม่ต้องการเช่นกัน และสำหรับแร่ธาตุในน้ำแร่นั้นเป็นแร่ธาตุอนินทรีย์ซึ่งร่างกายไม่สามารถนำไปใช้ได้ ซึ่งการดื่มน้ำแร่นั้นเท่ากับเป็นการเพิ่มภาระให้แก่ร่างกายเนื่องจากร่างกายต้องสูญเสียพลังงานส่วนหนึ่งเพื่อใช้กำจัดแร่ธาตุเหล่านี้ออกจากร่างกาย ดังนั้น น้ำบริสุทธิ์ที่ดีที่สุดคือ น้ำฝนหรือน้ำกลั่นซึ่งปราศจากสารปนเปื้อนและสารเคมีอื่นใด นอกจากนี้น้ำกลั่นยังช่วยนำพาแร่ธาตุอนินทรีย์ออกจากร่างกายอีกด้วย
น้ำกลั่นตามธรรมชาติ คือ น้ำฝน ซึ่งมาจากแหล่งน้ำบนโลกซึ่งระเหยกลายเป็นไอและจับตัวเป็นก้อนเมฆซึ่งจะเกิดการควบแน่นจากไอกลายเป็นหยดน้ำอีกครั้งในรูปของน้ำฝนหรือหิมะ แต่น้ำฝนในเมืองใหญ่ๆ นั้นเป็นน้ำที่มีการปนเปื้อนจากมลภาวะในอากาศจึงไม่เหมาะแก่การดื่ม
น้ำกลั่นเป็นน้ำที่ไม่มีรสชาติและมีความหนืดต่ำจึงสามารถที่จะซึมผ่านเซลล์และช่องว่างต่างๆ ได้ดี นอกจากนี้ยังสามารถชะล้างสารพิษและนำพาสารพิษเหล่านั้นออกจากเซลล์ ผ่านไปตามระบบน้ำเหลืองเพื่อกำจัดออกจากร่างกาย ดังนั้นการดื่มน้ำกลั่นจึงเป็นการช่วยเพื่อความชุ่มชื้นให้แก่เซลล์และยังช่วยในการกำจัดสารพิษออกจากร่างกายได้อีกทางหนึ่ง
นอกจากน้ำกลั่นแล้ว ผักผลไม้สดก็เป็นอีกแหล่งหนึ่งของน้ำบริสุทธิ์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เราจึงจัดว่าน้ำผัก ผลไม้เป็นอาหารชั้นเยี่ยมอย่างหนึ่งที่ควรจะดื่มเป็นประจำ
น้ำกลั่นเป็นน้ำที่ปราศจากแร่ธาตุ จึงไม่เหมาะแก่การบริโภคจริงหรือ ?
ข้อมูลจากการประปาส่วนภูมิภาคบอกว่า น้ำกลั่น คือ น้ำที่ได้จากการควบแน่นด้วยเครื่องกลั่นน้ำ (ควบแน่นก็คือการต้มน้ำให้กลายเป็นไอแล้วทำให้ไอน้ำเย็นลงจนกลายเป็นหยดน้ำอีกครั้ง เพื่อกำจัดเอาแร่ธาตุทุกชนิดให้แยกตัวออกไป) จึงมีความบริสุทธิ์สูงมาก มีเกลือแร่ละลายน้อยมาก หรือแทบไม่มีเลย
ในเรื่องคุณภาพแล้วอาจมีธาตุทองแดงเจือปนอยู่บ้าง หากกลั่นด้วยเครื่องกลั่นที่ทำด้วยขดลวดทองแดง นอกจากนี้ ค่าพีเอช (pH) หรือค่าความเป็นกรดด่างของน้ำกลั่นจะค่อนข้างไปทางกรด มักวัดได้ต่ำกว่า 6 (ค่าระดับ 7 คือเป็นกลาง, ต่ำกว่าเป็นกรด และมากกว่าเป็นด่าง)
เนื่องจากน้ำกลั่นมีความบริสุทธิ์สูงมาก ไม่มีแร่ธาตุ ในทางการแพทย์จึงนำไปใช้ในการเตรียมสารละลายต่างๆ เช่น ทำน้ำเกลือ เป็นต้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีแบคทีเรีย ดังนั้น ไม่ควรนำมาดื่ม
ในด้านห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ก็ใช้ในการเตรียมน้ำยาต่างๆ ส่วนในด้านอุตสาหกรรม ใช้ในการเจือจางต่างๆ เช่น ใช้ในการเติมแบตเตอรี่ เพื่อเจือจางน้ำกรด อันนี้ข้างขวดจะเขียนว่าห้ามดื่ม เนื่องจากอาจไม่สะอาดในกระบวนการกลั่นกรอง และอาจมีสารละลายอื่นๆ ที่เติมลงมาเพื่อประโยชน์ในการใช้สอย เช่น กรดกำมะถัน ส่วนนี้ทำให้น้ำกลั่นบางยี่ห้อมีราคาแพงกว่ายี่ห้ออื่นๆ
มีแพทย์ชื่อ นายแพทย์โจเซฟเมอร์โคลา (Joseph Mercola) ได้เขียนบทความเรื่อง "การตายก่อนวัยอันควรเนื่องจากการดื่มน้ำกลั่น" ไว้ระบุว่า เมื่อดื่มน้ำกลั่นเป็นประจำ จะเกิดการดึงแคลเซียมออกจากกระดูกและหัวใจอย่างต่อเนื่องจะทำให้เกิดปัญหาโรคกระดูกพรุน และกล้ามเนื้อหัวใจที่มีธาตุแคลเซียม แมกนีเซียม จะไม่เพียงพอ ก่อให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
การดื่มน้ำกลั่นหรือน้ำที่ปราศจากเกลือแร่ย่อมทำให้เกิดภาวะร่างกายขาดเกลือแร่หลัก รวมทั้งเกลือแร่ที่หายาก น้ำกลั่นจะมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ซึ่งน้ำที่ดีหรือน้ำในอุดมคติ ต้องมีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนๆ เนื่องจากร่างกายมี pH 7.4 ถ้าเมื่อใด pH ในเลือดเป็น 6.8 จะเกิดอาการกรดเป็นพิษ การที่จะมีฤทธิ์เป็นด่างนี้คือน้ำจะต้องมีเกลือแร่ เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม ละลายอยู่
สนใจสั่งซื้อน้ำกลั่น เคมี อุปกรณ์ในห้องแลป ติดต่อได้ที่หน้าเว็บไซต์เลยนะคะ หรือแอดไลน์
ที่มา http://filtervision-thai.com/index.php?route=content/content&content_id=224
สำนักงานใหญ่ บริษัท เจ.ซี.ที.ซายน์เซอโรเก็ท จำกัด
ที่อยู่ 267/92 ถนนสุขุมวิท ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง 21150
เบอร์โทร 033-680-241, 081-467-9952 E-mail: jct.science@gmail.com
เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 08.00-17.00 น.