คลอรีน คืออะไร
คลอรีน (Chlorine) เป็นสารเคมีที่มีประสิทธิภาพสูง จัดอยู่ในกลุ่มฮาโลเจน เป็นสารที่นำไปใช้ประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้านอุตสาหกรรม เกษตรกรรม ตลอดจนสาธารณสุข และที่เห็นได้ชัดเจน คือ การนำมาเป็นสารในการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ของขบวนการผลิต น้ำดื่ม-น้ำ ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม, ฟาร์มเลี้ยงปศุสัตว์, ฟาร์มเลี้ยงสัตว์น้ำ, ในตลาดสด และในครัวเรือน รวมทั้งใช้ในการบำบัดน้ำเสียจากแหล่งต่าง ๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสระว่ายน้ำ
คลอรีน ชนิดต่าง ๆ ที่ใช้กันโดยทั่วไป เป็นแบบไหน
คลอรีนที่ใช้กันโดยทั่วไป ในธุรกิจต่าง ๆ มีข้อดี-ข้อเสีย แตกต่างกัน ดังนั้น การใช้คลอรีนให้ได้ผล จำเป็นต้องกำหนดวัตถุประสงค์ของการใช้ เพื่อให้สามารถใช้คลอรีนได้ถูกต้องได้ผลสูงสุดตามที่ต้องการ
1. แคลเซียมไฮโปคลอไรท์ (Calcium Hypochlorite)
เป็นคลอรีนที่ใช้กันแพร่หลายที่สุด มีหลายความเข้นข้นให้เลือกใช้ตั้งแต่ 35-70% มีหินปูนเป็นองค์ประกอบ เมื่อนำไปละลายน้ำจะมีตะกอนที่ไม่สามารถละลายน้ำค่อนข้างมาก จึงจำเป็นต้องตั้งทิ้งไว้ให้ตกตะกอน แล้วนำส่วนที่ใสไปใช้ หลังละลายน้ำคลอรีนจะแตกตัวให้ Hypochlorite ion ( OCl– ) ซึ่งมีประจุลบ ทำให้มีบางส่วนไปจับกับตะกอนแขวนลอยในน้ำก่อน และมีส่วนน้อยเปลี่ยนรูปเป็น HOCl ซึ่งมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อได้รุนแรง ดังนั้นเพื่อให้ใช้ได้ผลดีจำเป็นต้องกำจัดตะกอนในน้ำก่อน และควรปรับค่า pH ของน้ำให้เป็นกรดเล็กน้อยที่ 6-6.8 โดยใช้กรดเกลือเพราะจะทำให้คลอรีนออกฤทธิ์ดีขึ้น
2. โซเดียมไฮโปคลอไรท์ (Sodium Hypochlorite)
เป็นคลอรีนชนิดน้ำ ทำให้สะดวกและง่ายต่อการใช้งาน แต่เนื่องจากอยู่ในรูปน้ำ ทำให้มีความคงตัวต่ำมาก ต้องใช้ให้หมดภายใน 2 วัน เพราะหลังจากนั้น ประสิทธิภาพจะลดลงไม่เพียงพอในการฆ่าเชื้อโรค
3. คลอรีนชนิด DCCNa (Sodiumdichloro Isocyanurate)
เป็นสารประกอบคลอรีนที่พัฒนาให้มีความคงตัวสูงเก็บรักษาได้นาน สามารถละลายน้ำได้อย่างรวดเร็ว และไม่มีตะกอนหลงเหลือ มี pH ที่เหมาะสมที่ 6.4-6.8 สามารถผลิตได้ทั้งในรูป ผง ,เกล็ด และเม็ด ( Tablet ) ทำให้นำไปใช้งานได้อย่างหลากหลาย และเหมาะสมต่อสภาพการใช้งาน
4. คลอรีน 90% (Trichloroisocyanuric Acid)
เป็นคลอรีนที่มีความเข้มข้นสูงถึง 90% สามารถละลายน้ำได้หมด ไม่มีตะกอนหลงเหลือ แต่ละลายได้ช้ามากใช้เวลาในการละลายนาน เมื่อละลายน้ำแล้วจะแตกตัวให้ HOCl และ Cyanuric Acid ทำให้มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อสูงมาก สามารถออกฤทธิ์ได้ดีกว่า คลอรีนชนิด Hypochlorite 8-10 เท่า
คลอรีน สารฆ่าเชื้อโรคได้อย่างไร?
คลอรีนมีความเป็นพิษที่ค่อนข้างสูง จึงมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย หรือตะไคร่น้ำ ทำให้สารชนิดนี้ถูกนำไปเป็นส่วนประกอบของสารทำความสะอาดหลายชนิด เช่น สารทำความสะอาดสระน้ำ น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาล้างจาน น้ำยาฟอกขาว น้ำยาซักผ้า เป็นต้น นอกจากนี้ ยังถูกนำไปใช้ในการบำบัดน้ำเสียจากโรงงานและโรงพยาบาล ใช้ควบคุมความสะอาดในน้ำสำหรับผู้ที่เพาะพันธุ์ปลาหรือสัตว์น้ำ ใช้เป็นสารฆ่าเชื้อในกระบวนการผลิตน้ำดื่ม รวมทั้งใช้ในอุตสาหกรรมกระดาษ พลาสติก สี สิ่งทอ และโลหะบางชนิดอีกด้วย
การใช้งาน คลอรีน
1. ก่อนใช้ต้องอ่านฉลากข้างภาชนะบรรจุ และปฎิบัติตามวิธีการใช้อย่างเคร่งครัด
2. ห้ามกลิ้งหรือโยนภาชนะบรรจุโดยเด็ดขาด
3. การตักคลอรีนจากภาชนะบรรจุ ต้องใช้พลั่วพลาสติกที่แห้งและสะอาด
4. ระวังอย่าให้คลอรีนสัมผัสกับกรดหรือด่าง วัตถุไวไฟ และเคมีภัณฑ์อื่น ๆ เพราะอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาอย่างรุนแรง
5. ห้ามทำการละลายคลอรีน โดยการเทน้ำใส่เพราะอาจเกิดการระเบิดได้
6. ขณะใช้ควรสวมแว่นตา ถุงมือ และชุดป้องกันอย่างรัดกุม
7. กรณีถูกไฟไหม้ คลอรีนจะปล่อยก๊าซออกซิเจน ดังนั้น ต้องใช้เครื่องดับเพลิงที่ให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือผงเคมีในการดับ เท่านั้น
การเก็บรักษา
1. เก็บในภาชนะทีปิดสนิทมิดชิด และห่างจากสารที่ลุกไหม้ได้
2. เก็บไว้ในที่แห้งและเย็น ไม่โดนแสงแดด และมีอากาศถ่ายเทสะดวก
การปฐมพยาบาลหากได้รับอันตราย
1. ถ้าสารเข้าตาหรือสัมผัสผิวหนัง ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดปริมาณมากๆอย่างน้อย 15 นาที กำจัดเสื้อผ้าที่เปื้อนสาร แล้วนำส่งแพทย์
2. กรณีสูดดมสาร ให้รีบนำตัวสู่บริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์ แล้วนำส่งแพทย์โดยทันที
3. กรณีกลืนกินสาร ถ้าผู้ป่วยยังมีสติ ให้ดื่มน้ำมาก ๆ แล้วตามด้วยน้ำมันพืช หากมีการอาเจียนให้ดื่มน้ำมาก ๆ แล้วนำส่งแพทย์ทันที ถ้าผู้ป่วยหมดสติ อย่าให้รับประทานสิ่งใด และห้ามทำให้อาเจียนโดยเด็ดขาด ให้รีบนำส่งแพทย์โดยเร็วที่สุด
สำนักงานใหญ่ บริษัท เจ.ซี.ที.ซายน์เซอโรเก็ท จำกัด
ที่อยู่ 267/92 ถนนสุขุมวิท ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง 21150
เบอร์โทร 033-680-241, 081-467-9952 E-mail: jct.science@gmail.com
เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 08.00-17.00 น.